ทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันฟุตบอลฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ครั้งที่ 12 ได้รูดม่านปิดฉากไปแล้ว  แทงบอลออนไลน์ แต่มีประเด็นให้พูดส่งท้ายเล็กน้อย เมื่อสื่อเวียดนามอย่าง vnexpress และ zingnews ได้ออกมาเปิดเผยจำนวนการทำฟาวล์และใบเหลืองของผู้เล่นอินโดนีเซียที่สูงซะจนไม่น่าเชื่อว่าจะได้รางวัลแฟร์เพลย์ โดยทั้งสองสื่อได้เผยว่า อินโดนีเซีย แทงบอล มีผู้เล่นได้รับใบเหลืองมากเป็นอันดับ 2 ของรายการที่ 13 ใบ คิดเป็น 1.6 ใบเหลืองต่อนัด และมีสถิติทำฟาวล์มากสุดในรายการที่ 143 ครั้ง แทงบอลออนไลน์ คิดเป็นการฟาวล์ 17.9 ครั้งต่อเกม นอกจากนี้อินโดนีเซียยังเป็นทีมที่มีการเข้าสกัดมากที่สุด 138 ครั้ง แต่มีอัตราความสำเร็จเพียง 63% สำหรับรางวัลแฟร์เพลย์ ได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการวินัยของ เอเอฟเอฟ พิจารณาภายใต้ Fair Play Code แทงบอล ของฟีฟ่าที่บัญญัติ 10 ประการอย่างไรก็ดี ฟาน อันห์ ทู อดีตรักษาการเลขาธิการสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม เปิดเผยว่า อินโดนีเซียได้รับรางวัลแฟร์เพลย์เนื่องจากมีทัศนคตินักกีฬาที่ดี                         พวกเขาแพ้ 4-0 ในเกมนัดแรกนัดชิงชนะเลิศ แต่ยังเล่นเกมที่ดีและยุติธรรมกับไทยในเกมที่สอง ชัยชนะคือเป้าหมายของทุกเกม แทงบอลออนไลน์ คุณไม่สามารถออกไปแข่งโดยคิดเตรียมพ่ายแพ้ ถ้าคุณไม่เล่นเพื่อชนะ เท่ากับว่าคุณโกงคู่ต่อสู้และผู้ชมของคุณ และขาดความจริงจังกับตัวเอง แทงบอล จากคำพูดของ ฟาน อันห์ ทู ทำให้อินโดนีเซียได้รางวัลเพราะตรงกับกฎข้อ 1 และ 2 ของ Fair Play Code ที่กล่าวว่า เล่นด้วยจิตวิญญาณแห่งกฎฟุตบอล และ เล่นเพื่อชัยชนะแต่ยังยอมรับความพ่ายแพ้ โดยสื่อเวียดนาม zingnews แทงบอลออนไลน์ ได้เสริมอีกว่าการได้รางวัลแฟร์เพลย์ของอินโดนีเซียในปีนี้ คล้ายกับมาเลเซียที่ได้รางวัลแฟร์เพลย์ในปี 2018 ทั้ง ๆ ที่ได้รับใบเหลืองมากสุดของรายการที่ 19 ใบ แทงบอล และ ใบแดงอีก 2 ใบ ซึ่งคาดว่ารางวัลถูกมอบเพื่อปลอบใจทีมที่ได้รองแชมป์เสียมากกว่า ซึ่งเป็นการมองคนละมุมมองกัน โดยสื่อเวียดนามมองเรื่องของสถิติใบเหลืองและการฟาล์วที่เกิดขึ้นเป็นหลัก แต่มุมมองของคณะผู้จัดกลับมองในเรื่องของสปิริตนักสู้ ไม่ถอดใจของนักเตะอิเหนา ที่ทุ่มเทจนนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน สำหรับรางวัลแฟร์เพลย์ใน แทงบอลออนไลน์ ซูซูกิ คัพ มีการมอบครั้งแรกในปี 2008 โดยทีมชาติไทยที่คว้ารองแชมป์ในปีนั้นเป็นผู้ประเดิมรางวัลดังกล่าว